วันอังคารที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2560

พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์

พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์

พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (ฝรั่งเศสMusée du Louvre) หรือในชื่อทางการว่า the Grand Louvre เป็นพิพิธภัณฑ์ทางศิลปะตั้งอยู่ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงที่สุด เก่าแก่ที่สุด และใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งได้เปิดให้สาธารณชนเข้าชมได้เมื่อปี พ.ศ. 2336 (ค.ศ. 1793) มีประวัติความเป็นมายาวนานตั้งแต่สมัยราชวงศ์กาเปเซียง ตัวอาคารเดิมเคยเป็นพระราชวังหลวง ซึ่งปัจจุบันเป็นสถานที่ที่จัดแสดงและเก็บรักษาผลงานทางศิลปะที่ทรงคุณค่าระดับโลกเป็นจำนวนมากกว่า 35,000 ชิ้น จากตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์จนถึงศตวรรษที่ 19 อย่างเช่น ภาพเขียนโมนาลิซา, The Virgin and Child with St. Anne, Madonna of the Rocks ผลงานของเลโอนาร์โด ดาวินชี หรือภาพ Venus de Milo ของอเล็กซานดรอสแห่งแอนทีออก ในปี พ.ศ. 2549 พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์มีผู้มาเยี่ยมชมเป็นจำนวน 8.3 ล้านคน ทำให้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีผู้มาเยี่ยมชมมากที่สุดในโลก[ต้องการอ้างอิง] และยังเป็นสถานที่ที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดในกรุงปารีส
รูปประติมากรรมหินอ่อนวีนัส ของมิโล (Venus de Milo) ถูกเพิ่มมาจัดแสดงในรัชสมัยของพระเจ้าหลุยส์ที่ 13
พีระมิดแก้วของพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ออกแบบโดย ไอ. เอ็ม. เป สถาปนิกชาวจีน-อเมริกัน ก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์เมื่อปีค.ศ.1988 โดยเป็นหนึ่งในโครงการที่ริเริ่มของประธานาธิบดีฟร็องซัว มีแตร็อง เพื่อใช้สอยเป็นทางเข้าหลักของพิพิธภัณฑ์ โดยผู้เข้าชมจะต้องเข้าผ่านล็อบบี้ใต้ดิน ที่อยู่ใต้ฐานพีระมิด โดยโครงการถัดไปคือพีระมิดกลับหัว หรือ The Inverse Pyramid (ฝรั่งเศสLa Pyramide Inversée) ซึ่งเป็นพีระมิดแก้วเช่นเดียวกัน ที่สามารถมองเห็นได้จากใต้ดิน โดยฐานพีระมิดจะอยู่บนพื้นผิวระดับถนน ซึ่งโครงการนี้เสร็จสมบูรณ์ในปีค.ศ.1993
พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ถือเป็นหน่วยงานของรัฐบาลฝรั่งเศส โดยตั้งแต่ปีค.ศ.2003 ได้มีความพยายามทำการแปรรูปขึ้น โดยเฉพาะเมื่อมีการปรับลดงบประมาณสนับสนุนจากรัฐบาลจาก 75% เหลือเพียง 62% ในปีค.ศ.2006 โดยภาพยนตร์ชื่อดังจากนวนิยายเรื่อง ดาวินชี่โค้ด ของแดน บราวน์ พิพิภัณฑ์ได้รับเงินสนับสนุนค่าพื้นที่การถ่ายทำถึง 2.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และในปีค.ศ.2008 รัฐบาลฝรั่งเศสได้สนันสนุนงบประมาณทั้งหมด 180 ล้านเหรียญฯ จากงบประมาณที่ต้องการทั้งหมด 350 ล้านเหรียญฯ โดยส่วนต่างที่เหลือมาจากเงินบริจาค และค่าเข้าชม





พระราชวังลูฟวร์ กับพีระมิดแก้วยามค่ำคืน


พระราชวังลูฟวร์ กับพีระมิดแก้ว





พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์
Musée du Louvre
Louvre at night centered.jpg
ข้อมูลทั่วไป
ประเภทพิพิธภัณฑ์ และพระราชวัง
ที่ตั้งปารีส แคว้นอีล-เดอ-ฟร็องส์
ประเทศฝรั่งเศส ประเทศฝรั่งเศส
การก่อสร้าง
ปีสร้างค.ศ. 1793
ผู้สร้าง
ขนาด160,106 ตารางเมตร
ผู้ออกแบบ/ตกแต่ง
สถาปนิก
ผู้ตกแต่งภายใน
สวนสวนตุยเลอรี
ข้อมูลอื่น
สิ่งที่น่าสนใจ
  • พิพิธภัณฑ์ที่มีผู้ชมมากที่สุดในโลก
    * มีผลงานกว่า 380,000 ชิ้น
เว็บไซต์www.louvre.fr
หมายเหตุเปิดในฐานะพิพิธภัณฑ์เมื่อปี พ.ศ. 2336
มีผู้ชม 6,894,000 ราย (พ.ศ. 2547)
มีผู้ชม 7,553,000 ราย (พ.ศ. 2548)
มีผู้ชม 8,348,000 ราย (พ.ศ. 2549)
Palais Royal – Musée du Louvre
Metro-M.svg Paris m 1 jms.svg Paris m 7 jms.svg
Louvre-Rivoli Metro-M.svg Paris m 1 jms.svg





วันสำคัญและเทศกาลของฝรั่งเศส



 วันสำคัญของฝรั่งเศส
วันขึ้นปีใหม่ 
10 มกราคมนี้เริ่มกำหนดใช้ในปี ค.ศ. 1564 และ วันที่ 31 ธันวาคมถือว่าเป็นการฉลองคืนส่งท้าย
ปีเก่าเพื่อต้อนรับขึ้นวันปีใหม่ด้วย ในวันนี้ ถือเป็นโอกาสที่จะให้ของขวัญ (เงิน) กับเด็ก ๆ
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ วันขึ้นปีใหม่ฝรั่งเศส
วันชองเดอเลอ (Chandeleur) 
2 กุมภาพันธุ์ วันทางศาสนาของชาวคริสเตียน แรกเริ่มมาจาก เทศกาลแสงไฟ ในปี ค.ศ. 472 เทศกาลนี้ได้กลายเป็นการเฉลิมฉลองการเป็นตัวแทนของ พระเยซูภายในโบสถ์ตามธรรมเนียมมีการทำขนมเครป แล้วโยนขึ้นกลับด้านโดยกำเงินไว้ในมือ อีกข้างเพื่อถือเป็นการนำโชคดีมาสู่ตัวผู้โยนici-french (1)
วันนำสาร (Annonciation) 
25 มีนาคม ตามศาสนาคริสต์ เทวดากาเบรียล นำสารมาบอกมารีถึงการตั้งครรภ์พระเยซู 9 เดือนก่อนวันคริสต์มาสถือได้ว่าเป็นวันจุติของพระเยซู
วันแรงงาน ( Fête du travail) 
1 พฤาภาคม เป็นธรรมเนียมของผู้ใช้แรงงานในการต่อสู้ที่มีอยู่ทั่วโลก ในประเทศส่วนใหญ่จัดเป็นวันหยุดประจำปี ประเทศฝรั่งเศสเริ่มต้นในปี 1919 และในปี 1947 เป็นวันหยุดเต็มวันโดยได้รับค่าแรงด้วย ในวันนี้สหภาพแรงงานต่าง ๆ จะเดินขบวนกันตามเมืองต่าง ๆ ของประเทศ และมีการมอบช่อดอกมูเก้ด้วย  

วันชาติ (Fête Nationale)
รำลึกถึงวันแห่งการปฎิวัติของฝรั่งเศส 1789 โดยเฉพาะการทำลายคุกบาสตีล ในวันที่ 14 กรกฎาคม 1978 คุกบาสตีลเป็นคุกสำคัญของปารีส และเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจกษัตริย์ ในวันที่ 14 กรกฎาคม 1789 ชาวกรุงปารีสได้ทำการเผาและเข้ายึดคุก การเข้ายึดคุกบาสตีลนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของการก่อตั้งสาธารณรัฐฝรั่งเศสรูปภาพที่เกี่ยวข้อง
วันอัสสัมซิยง (Assomption) 
15 สิงหาคม วันทางศาสนาของชาวคาทอลิกที่ทำการฉลองในการที่พระแม่มารีขึ้นสู่สรวงสวรรค์ เป็นวันสำคัญกลางฤดูร้อน
วันตุสแซง (Toussaint) 
1 พฤศจิกายน วันทางศาสนาของชาวคาทอลิก ในการเฉลิมฉลองให้กับทุกนักบุญโดยโบสถ์โรมัน ในวันนี้ได้กลายเป็นวันเยี่ยมหลุมฝังศพ เพือ่วางดอกไม้กับผู้เสียชีวิตไปแล้ว และดอกคริสซองแตม  
วันเดฟัน (Défunts)
2 พฤศจิกายน ในฝรั่งเศสรวมกันกับวันหยุดตุสแซง วันสิ้นสุดสงคราวโลกครั้งที่ 1 (Armistice 1918) 11 พฤศจิกายน 1918 รำลึกถึงการสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยมีการเซ็นสัญญายุติสงครามมที่ Rethondes ป่า Compiège (Oise)

เทศกาลของฝรั่งเศส

Beheading Bottles of Champagne

เป็นประเพณีที่ยังนิยมกันมากในงานแต่งงาน คือการตัดคอขวดแชมเปญด้วยมีดโค้ง ประเพณีเกิดขึ้นในยุคของนโปเลียน เมื่อ Hussards อยากเปิดแชมเปญฉลองชัยชนะ ด้วยการใช้มีดโค้งตัดคอขวดออก จากคำจารึกกล่าวว่า Hussards, ซึ่งเป็นทหารม้า จะควบม้าด้วยความเร็ว ไปหาผู้หญิงซึ่งถือขวดแชมเปญ หรือไวน์ไว้ แล้วตัดคอขวดด้วยความเร็วและแม่นยำ

Christmas

ประเพณีดั้งเดิมของฝรั่งเศส ส่วนใหญ่เป็นวันหยุด การแสดงหุ่นกระบอกในวัน คริสมาตร์อีฟ เป็นงานที่เกิดเป็นประจำ ช่วงเที่ยงคืน ผู้คนจะไปที่โบสถ์เพื่อรำลึกถึงพระเจ้า หลังจากนั้นจะทานอาหารร่วมกัน ที่เรียกว่า ประเพณี le Réveillon ระลึกถึงการตื่น หรือเกิดใหม่ของพระคริสต์ ซึ่งแต่ละท้องถิ่นอาจทำแตกต่างกันออกนิดหน่อย แต่ที่ต้องมีคือ ไก่งวง ไก่ ห่าน และ boudin blanc
เด็กๆเฝ้ารอ Père Noël (Santa Clause) และวางรองเท้าทิ้งไว้ข้างกองไฟ ในตอนเช้าจะมีของขวัญจะวางในนั้น ต้นไม้ถูกตกแต่งด้วยถั่ว และ ลูกอม นอกจากนี้ เด็กยังเชื่อว่า Père Fouettard จะมาลงโทษเด็กดื้อ

Easter

ในฝรั่งเศสเรียก Pâques เป็นวันสำคัญวันหนึ่งของที่นี่ ซึ่งเป็นคริสเตียนที่เคร่งครัด โดยเฉพาะกลุ่มคาทอลิค ตามประเพณีแล้ว จะไม่มีการตีระฆังในวันพฤหัสก่อน Good Friday ตลอดหลายวันจะเงียบอยู่อย่างนั้น จนถึง Easter Sunday ทุกอย่างจะกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ระฆังดัง ผู้คนสวมกอด และจูบกัน

Poison d'Avril

เป็นชื่อของ French Easter Fish และมาในรูปของช็อคโกแลต ประเพณีเก่าแก่ นี้เกิดขึ้นย้อนหลังไปหลายศตวรรษ ในวันที่ 1 พฤษภาคม เป็นเรื่องสนุกอย่างหนึ่งที่เด็กๆจะพยายามเอาปลากระดาษ ไปแปะตามหลังของผู้ใหญ่ แล้ววิ่งหนีสุดชีวิต พร้อมตะโกนว่า “Poison d'Avril!!”,ซึ่งก็คล้ายๆกับ “April Fools!” นั่นเอง

Epiphanie

เทศกาลของชาวคริสเตียน ในโบสถ์ละติน เป็นการฉลองการมาเยี่ยม พระเยซูของ Rois mages โดยธรรมเนียม มีการทานขนมหวาน เค้ก (รูปทรงมงกุฎในทางตอนใต้) หรือ กาแลตดูครัว (ทางเหนือของฝรั่งเศส) จัดขึ้นในวันอาทิตย์แรกของเดือนมกราคม

วันอังคารที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2560

ประตูชัยฝรั่งเศส (Arc de triomphe)







                 ประตูชัยฝรั่งเศส (Arc de triomphe)





   เป็นอนุสรณ์สถานที่สำคัญในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยู่กลางจัตุรัสชาร์ลส์ เดอ โกลล์หรือเป็นที่รู้จักกันในนาม จัตุรัสแห่งดวงดาวทิศตะวันตกของชองป์-เซลิเซ่ส์ ประตูชัยแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นการสดุดีวีรชนทหารกล้าที่ได้ร่วมรบเพื่อประเทศฝรั่งเศส โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสงครามนโปเลียน และในปัจจุบันยังเป็นสุสานของทหารนิรนามอีกด้วย ประตูชัยนี้เป็นส่วนหนึ่งของ"แนวเส้นตรงทางประวัติศาสตร์" (L'Axe historique) ซึ่งเป็นถนนเส้นตรงจากสวนพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ไปยังชานเมืองปารีส ประตูชัยแห่งนี้ออกแบบโดยฌอง ชาลแกร็งในปีพ.ศ. 2349 โดยมียุวชนเปลือยชาวฝรั่งเศสกำลังต่อสู้กับทหารเยอรมัน เต็มไปด้วยเคราและใส่เกราะเป็นสัญลักษณ์เพื่อเป็นการปลุกใจ และเป็นอนุสรณ์สถานจนกระทั่งสงครามโลกครั้งที่ 1 ประตูชัยฝรั่งเศสมีความสูง 49.5 เมตร (165 ฟุต) กว้าง 45 เมตร (148 ฟุต) และลึก 22 เมตร (72 ฟุต) เป็นประตูชัยที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบัน
แบบของประตูชัยฝรั่งเศสนี้ได้แนวความคิดมาจากประตูชัยไตตัส ประตูชัยฝรั่งเศสมีความใหญ่มาก เพราะหลังจากมีการสวนสนามในปรุงปารีสเมื่อปี พ.ศ. 2462 นีอูปอร์ต (Nieuport) ผ่านกลางประตูชัยฝรั่งเศสเพื่อเป็นการสดุดีเหล่าทหารอากาศที่ได้เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 1 ประตูชัยฝรั่งเศสเป็นหนึ่งในอนุสรณ์สถานที่โด่งดังที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงปารีสได้ถูกมอบหมายให้สร้างในปี พ.ศ. 2349 หลังจากจักรพรรดินโปเลียนที่ 1ได้รับชัยชนะในยุทธการเอาสเตอร์ลิทซ์ กว่าจะวางรากฐานของการก่อสร้างก็ใช้เวลาเกือบ 2 ปีไปแล้ว และในปี พ.ศ. 2353 เมื่อจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 เสด็จกรุงปารีสจากทางทิศตะวันตกพร้อมด้วยเจ้าสาว อาร์คดัชเชสมารี หลุยส์แห่งออสเตรีย ประตูชัยฝรั่งเศสก็ถูกสร้างขึ้นด้วยไม้ในแบบจำลองเท่านั้นเอง สถาปนิก ฌอง ชาลแกร็ง ได้เสียชีวิตลงในปี พ.ศ. 2354 ดังนั้นอูยงจึงได้ดูแลงานนี้ต่อมา ในช่วงราชวงศ์บูร์บงฟื้นฟู การก่อสร้างได้หยุดชะงักลงและไปเสร็จสิ้นในรัชสมัยพระเจ้าหลุยส์-ฟิลิปป์ในระหว่าง พ.ศ. 2376 - พ.ศ. 2379 โดยสถาปนิกคือกูสต์ ต่อมาคืออูโยต์ ภายใต้การดูแลของหลุยส์-เอเตียนน์ เอริการ์ต เดอ ตูรี (Louis-Étienne Héricart de Thury
                                                                    ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ประตูชัย ฝรั่งเศส     

การออกแบบ
ตั้งแต่การล่มสลายของจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ในปี พ.ศ. 2358 แล้ว ประตูชัยได้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งสันติ ซึ่งได้มีการเฉลิมฉลองกันในปีเดียวกันนั้นด้วย
แบบของประตูชัยนั้น ฌ็อง ชาลแกร็งเป็นผู้ออกแบบ ในรูปแบบศิลปะนีโอคลาสสิก ที่ได้ดัดแปลงมาจากสถาปัตยกรรมโรมันโบราณ ช่างแกะสลักที่สำคัญของประเทศฝรั่งเศสนั้นก็ได้มีส่วนร่วมในรูปแกะสลักของอาร์กเดอทรียงฟ์ด้วย เช่น ฌ็อง-ปีแยร์ กอร์โตฟร็องซัว รูดอ็องตวน เอแต็กซ์เจมส์ ปราดีเย และฟีลิป โฌแซ็ฟ อ็องรี ลาแมร์ รูปแกะสลักที่สำคัญไม่ได้เป็นลวดลายยาวบนกำแพง แต่เป็นรูปแกะสลักลอยตัวที่เป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะติดกับตัวประตูชัย
  • รูปแกะสลัก 4 กลุ่มบริเวณฐานประตูชัยที่สำคัญ ได้แก่ :






Batailles gravées sur atique ADT.jpg

  • ส่วนโค้งของเสา มีสัญลักษณ์รูปสลักหญิงในตำนานโรมันปรากฏอยู่ (โดยเจมส์ ปราดีเยร์)



Batailles gravées sous grandes arcades.jpg
ศึกสงครามถูกสลักลงบนส่วนโค้งของเสา

  • ส่วนโค้งของเสามีรูปแฝงความหมาย ดังนี้





  • ใต้ประตูชัยจะมีสุสานทหารนิรนาม โดยสลักไว้ดังนี้:
ICI
REPOSE
UN SOLDAT
FRANÇAIS
MORT
POUR LA PATRIE

1914 . 1918
Unknownsoldier paris.jpg
   สุสานทหารนิรนาม   

รายละเอียดของสุสาน

การดูแลรักษา

ในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1960 อาร์กเดอทรียงฟ์ได้มีสีดำขึ้น เนื่องจากถูกเขม่าถ่านหิน ต่อมาในช่วงปี พ.ศ. 2508 - พ.ศ. 2509 ประตูชัยได้ถูกทำความสะอาดโดยเครื่องพ่นทราย ในปัจจุบันคราบสีดำเริ่มก่อตัวขึ้นมาใหม่อีกครั้งหนึ่ง

การเข้าชม

การเข้าสู่อาร์กเดอทรียงฟ์ด้วยการเดินเท้านั้นคือผ่านทางเดินใต้ดิน ถ้าเดินข้างบนมักจะไม่ปลอดภัยเนื่องจากจราจรอันคับคั่งบริเวณจัตุรัสชาร์ล เดอ โกล บริเวณส่วนโค้งจะมีลิฟต์ 1 ตัว นักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นบันได 284 ขั้นเพื่อขึ้นสู่ยอดส่วนโค้งหรือสามารถขึ้นลิฟต์ดังกล่าวและขึ้นบันไดอีก 46 ขั้นได้เหมือนกัน บนยอดของอาร์กเดอทรียงฟ์เป็นสถานที่ชมวิวได้สวยที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงปารีส เนื่องจากสามารถเห็นถนนใหญ่ 12 สายมาบรรจบกันยังอาร์กเดอทรียงฟ์ (จัตุรัสชาร์ล เดอ โกล) ได้ด้วย นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นรถไฟฟ้าแอร์เออแอร์หรือรถไฟฟ้าปารีสได้ โดยลงที่สถานีชาร์ล เดอ โกล-เอตวล                                                                                                                                                                                รูปภาพที่เกี่ยวข้อง




รูปภาพที่เกี่ยวข้อง